รู้หมือไร่
ขายดีทุกวัน แต่ก็ขาดทุนทุกวัน?!
เห้ยย เป็นไปได้หรออ ไม่จริ๊งง
หึ! แม่ค้า 70%
พับโต๊ะคอตกปิดเพจไปเพราะ 4 ข้อ
ที่จะเล่านี่แหละ พู่นเบย!
1.ไม่เช็คสต็อค เตรียมน็อคได้เลย!
เห็นมาแยะ เจ็บมาเยอะ!
โกดังเต็มงี้ ไม่มีที่วาง ต้องหาทางขยาย
ใครเจอแบบนี้อยู่ ชูจักกะแร้มาซะดีๆ
มันหมายความว่า ตอนเนี้ยะ
“สต็อคคุณบวม!” หาทางระบายซะ!
2.เงินหมุน! คือร่ะ? ก็ซื้อมา..ขายไป
เหลือจ่ายค่าเช่า ค่าเด็ก
มีเงินกินนู่นนี่นั่นก็พอละ จบ!
ไม่ทำบัญชี ที่แน่ๆคือ เวลาคนถามว่า
มูลค่าสต็อคกี่บาท ตอบได้ไหม?
แม่ค้าส่วนใหญ่มักตอบว่า
“…เอ่อ…คร่าวๆก็ประมาณ…”
ตัวเลขในหมอกจางๆและควันมาเลย
เพราะไม่ได้ทำระบบบัญชีรายสินค้า
ประมาณมาตลอด ไม่รู้แท้จริงว่า
สินค้าแต่ละไอเท็มทุนกี่บาท
มีของเหลือมูลค่าเท่าไหร่ก็ไม่รู้
อัลไลประมาณเนี้ยะ
3.จองหมดดีใจใหญ่เลยรีบรีพีท!
อย๊าาาาาา กู่ก้องร้องห้าม!
ห๊ะ? ทำไมอ่ะ? เอาจริงดิ?
ตอบขร่ะ! จริงที่สุด!!
การจองแบบหลับหูหลับตาจองมากันเนี่ย
ไม่ได้หมายความว่าจะเอาชัวร์หมดทุกออเดอร์นะคะ
การันตีไม่ได้เป็นเฉพาะวงการแฟชั่นด้วย
เห็นไวรัลล่าสุดที่สายการบิน
ขายตั๋ว over booking มั๊ยเทอว์?
นั่นล่ะ ระลึกไว้ว่าขนาด industry ใหญ่ๆแบบนั้น
เค้ายังต้องทำระบบให้มีการ “จองเกิน” โควต้าไว้เลย
เพราะว่ามันมีการ “แคนเซิ่ล” เสมอไงจ๊ะ
4.ไม่ตามเทรนด์!
ไม่ใช่เฉพาะวงการแฟชั่นนะค้าที่มี TREND!
ทุก industry ในโลกสีฟ้าใบเน้ล้วนมีกระแสหมด!
ถ้าคิดจะขายของ คุณก็ต้องใช้ทั้งใจและตาดู!
ใช้ใจเพื่อสร้าง passion ส่วนตาไว้ส่องคู่ต่อสู้!
4 ข้อนี่เบๆนะ ควรทำ ไม่ใช่สิ “ต้องทำ”
ไว้วันหลังมาแชร์ประสบการณ์
ระบายสต็อคของ 17 ล้านบาท
ให้กลายเป็นเงินให้ฟัง แซ่บมาก พูดเลออ 😉
ข้อคิดสำหรับแม่ค้านะคะ
“ก่อนสั่งของ เงินอยู่ในกระเป๋าเรา
พอสั่งเขา เงินเราก็ไปอยู่ในกระเป๋าเขานะจ้ะ”
Leave a Comment