เพื่อนๆ เคยคิดมั้ยว่าทำยังไงถึงเพิ่มยอดขายให้ได้สูงสุด เต็มประสิทธิภาพมากที่สุดในการขายผ่าน Chat บน Facebook และ LINE จริงอยู่ว่าการขายผ่าน Chat หรือการพูดคุย จริงๆแล้วมันไม่ได้ยาก ลูกค้าถาม คุณก็ตอบกลับไป แต่แท้จริงแล้ว ถ้าการเพิ่มรายละเอียด หรือ การใส่ใจลงไป จะช่วยเพิ่มยอดขายให้คุณอย่างนึกไม่ถึงเลยล่ะ และที่สำคัญสุดๆ คือ ความเร็วในการตอบสนองลูกค้านั่นเอง
7 เทคนิคเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มยอดขายบน Chat Commerce ให้คุณได้อย่างแน่นอน
1. เมื่อขายแล้ว ออเดอร์อยู่สถานะไหนก็ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
จะให้ลูกค้าซื้อซ้ำแล้ว นอกจากสินค้าต้องดีแล้ว ความน่าเชื่อถือของร้านคุณก็ต้องดีด้วย การที่คุณสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านของคุณง่ายๆด้วยการแจ้งว่า ได้รับเงินแล้ว จัดส่งออกไปแล้ว เป็นการสร้างความเชื่อใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ระบบ Chat Commerce ของ Commerzy ที่ช่วยให้คุณแจ้งสถานะลูกค้าอัติโนมัติ ทุกการเคลื่อนไหว
ระบบ Order Tracking หรือ ระบบติดสถานะของ Commerzy ที่ช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกในการแจ้งที่อยู่และติดตามสถานะได้
2. อย่าให้ลูกค้ารอคุณเช็คสต๊อกว่ามีของพร้อมขายมั้ย
เรื่องนี้อิงมาจากผลการวิจัยต่างๆนาๆเต็มไปหมดเลยว่า คนสมัย Social ความอดทนต่ำ ส่วนใหญ่รอไม่ไหว สิ่งที่ต้องทำก็คือ มีระบบจัดการสต๊อกที่ดี เพื่อย่นระยะเวลาการตอบคำถามให้คุณ
ระบบ Point Of Sale ของ Commerzy ที่รวมทั้งการขายและ Chat อยู่ในหน้าเดียว
การค้นหาสินค้าแบบละเอียดที่ช่วยเพิ่ม ทางเลือกการนำเสนอสินค้าเพิ่มตาม หากสินค้าที่ลูกค้าทักมาถามอาจจะหมด
3. จัดการรูปสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ลดเวลาการค้นหารูป
ลองคิดดู ถ้าลูกค้าถามหารูปสินค้า แต่กลับต้องไปเลื่อนนิ้วหาบน gallery เพื่อที่จะหาแค่รูปเดียว คงเป็นเรื่องยากมากๆที่คุณจะส่งรูปให้ไวทันใจแน่เลย ลองดูว่าจะทำอย่างไรถึงจะจัดการรูปได้อย่างเป็นหมวดหมู่ในมือถือของคุณ เช่น การตั้ง Album สินค้าไว้ ไม่ให้มากองกันที่ Photo อย่างเดียว หรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นระบบที่สามารถเก็บรูปภาพไว้ให้คุณใช้ค้นหาได้ง่ายๆ แล้วรูปก็พร้อมส่งได้ในทันทีดีกว่า
Commerzy เสมือนคลังรูปสินค้าให้คุณ สามารถค้นหาและส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว
รูปที่ถูกส่งออกไปจากคลังข้อมูลสินค้าในระบบ Commerzy
4. ข้อความไหนบ่อยๆก็ปักหมุดเอาไว้เลย
ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ข้อความเดิมๆซ้ำๆอีกต่อไปแล้วแค่ สร้างตัวเลือกของประโยคที่ใช้บ่อยๆไว้ในระบบ เท่านี้ก็ไม่ต้องเมื่อยนิ้วคอยพิมพ์ แล้วให้ลูกค้ารออีกต่อไป
เลือกข้อความที่ใช้บ่อยๆได้ทันที
ตัวอย่างข้อความที่ตั้งเอาไว้
5. ติด Tag แยกกลุ่มลูกค้า
ลูกค้าแต่ละคน คงไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด การติด Tag เพื่อแยกสถานะ เช่น สนใจ รอโอน ซื้อแล้ว สถานะเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าไปจัดการกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องคอยไล่ดูกับรายชื่อลูกค้าทั้งหมดหลายร้อยคน
เลือก Tag แบ่งสถานะของลูกค้า (ลูกค้า 1 คนติด Tag ได้มากกว่า 1 Tag)
ผลการค้นหาด้วย Tag ที่ตั้งไว้
6. ยกเลิกออเดอร์สำหรับลูกค้าที่จองแล้วแต่ไม่โอน เพื่อที่จะไม่ได้เสียโอกาสในการขายคนอื่น
cf cf cf cf … แล้วแต่ไม่โอนเงิน เอาล่ะทีนี้ นิ่งสนิท นี่เป็นอีกเรื่องที่มักจะสร้างปัญหาให้กับเจ้าของร้านเป็นอย่างมาก บางคนต้องขึ้นข้อความว่า “ไม่เอาจริงอย่า cf” เลยทีเดียว เพราะเจ้าของร้านมักต้องจองของรอให้กับลูกค้าที่ cf เหล่านี้ พอออเดอร์มาเยอะๆ ก็จัดการไม่ไหว มานั่งยกเลิกเองไม่ไหว แถมจะนั่งตามให้โอนมันก็ค่อนข้างเหนื่อย ดังนั้นจึงกลายเป็นเสียโอกาสที่จะขายให้คนอื่นๆไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ อันนี้คงต้องหาระบบที่จะช่วยแจ้งเตือนให้โอนเงิน และยกเลิกบิลอัตโนมัติ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ระบบ Commerzy ช่วยให้คุณแจ้งเตือนและยกเลิกออเดอร์อัตโนมัติ ถ้าไม่มีการชำระเงิน
หน้าระบบติดตามออเดอร์ แสดงข้อมูลว่าบิลถูกยกเลิกอัตโนมัติไปแล้ว
7. จัดการให้การขายผ่าน Chat Commerce หลายๆระบบ สามารถจัดการได้ง่ายๆจากจุดเดียว
คงไม่ต้องเถียงกันแล้วในยุคนี้ ว่าจะขายทางไหนดีระหว่าง Facebook แล้ว LINE OA ดีที่สุดคือขายมันทั้ง 2 ทางนี่แหละ แค่มีระบบบริหารจัดการที่เอา 2 แชท ทั้ง Facebook และ LINE มาไว้ในระบบเดียวกัน ชีวิตที่ยุ่งยากก็ไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไป
ระบบ Commerzy เลือกได้เลยว่าคุณจะจัดการกับลูกค้าที่มาจากช่องทาง Facebook หรือ LINE OA
อ่านข้อมูลระบบเชื่อม Chat Facebook – LINE OA เพิ่มเติมได้ที่ https://www.commerzy.com/%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%9c%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99-facebook-page-line/
Leave a Comment