Business model แนวใหม่ที่กำลังมาแรงในปีนี้ คงหนีไม่พ้นแนวคิดต่างๆแบบ startup
disrupt แปลตรงตัวว่าการขัดขวางหรือแทรกแซง ในมุมมองของทางด้านธุรกิจคำว่า business digital disruption อาจมองได้ว่าเป็นการสร้างความแตกต่างทางธุรกิจเพื่อขึ้นมาเป็นผู้นำตลาด
มีหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชื่อ digital transformation by Jo Caudron (มี credit ข้างล่าง) แต่วันนี้แอดมินจะมาสรุปเนื้อความสั้นๆ เกี่ยวกับ 10 แนวคิดธุรกิจแบบใหม่ที่ทำให้ธุรกิจแบบปัจจุบันต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง
Disrupt or be disrupted
10 Disruptive Business Model
1. Subscription model เป็นการผูกมัดลูกค้าด้วยค่าบริการรายเดือนแสนถูก ตัวอย่างพวกบริการดูหนังออนไลน์ ซึ่งปกติของคนพวกนี้จะซื้อหาเป็นครั้งคราว อยากเข้าไปดูหนังก็ดู อยากเช่า dvd หรือเช่าผ่าน iTune ก็ทำเป็นครั้งๆ แต่แนว subscription เป็นการผูกมัดให้คนใช้บริการพวกนี้แบบติดพัน เช่นอาจจะเก็บแค่ เดือนละ 300 คนก็เห็นว่าดูหนังโรงทีก็ 200 แล้ว งั้นสมัครไว้เลยละกัน เดือนละ 300 เอง
2. Freemium model คล้ายกับการให้ทดลองใช้ แต่ก็ใช้งานได้จริงๆนะ เพียงแต่ว่าอาจจะจำกัดการใช้งาน เช่นให้ dropbox ใช้ฟรี 5 gb หรือใกล้ตัววัยรุ่นก็นี่เลยพวกเกม Candy crush, Crash of clan, farm ville น่าจะผ่านหูผ่านตากันบ้าง อันนี้แนว effort limited คือถ้าอยากชนะคนอื่นไวๆ ก็ซื้อเพชรโลดไปไวแน่นอน ธุรกิจแนวฟรีเมี่ยมนี่เหมาะกับธุรกิจที่ต้นทุนของผู้ใช้ต่อหัวไม่มากหรือถูกกว่าค่าทำการตลาด แต่ขอเพิ่มต่อท้ายนิดนึงต้องเข้าใจว่า freemium ต่างจาก free trial คือให้ใช้ได้แต่กำหนดระยะเวลา เช่นให้ใช้ฟรี 30 วันแบบนี้ไม่เหมือนกันนะ
3. Free model ก็นี่พี่ใหญ่เลย Google กับ Facebook เล่นฟรีตลอดจ้า ใช้ได้ดีมากๆด้วย แล้วฟรีได้ยังไงล่ะ? ใครสงสัยบ้าง? เคยได้ยินไหม “ของฟรีไม่มีในโลก” ถ้าคุณไม่ได้จ่ายเงินเพื่อใช้บริการ ตัวคุณนั่นแหละคือสินค้าของเขา ง่ายๆสั้นๆ เราเป็นสินค้าให้เขาสองอย่าง หนึ่งคือความเป็นตัวคุณ สองข้อมูลของสิ่งที่คุณสนใจ ซึ่งมันมีมูลค่ามากในการทำการตลาด
4. Marketplace model เหมือนกับการเปิดตลาดจับคนซื้อกับคนขายมาอยู่ด้วยกันและก็เก็บค่าคอมมิชชั่นจากพื้นที่ตรงนั้น ตัวอย่างระดับ unicorn ก็ Airbnb Uber Ebay จับแพะชนแกะ เก็บค่าบริการนิดหน่อย
5. Access-over-ownership มองง่ายๆ คล้ายกับการเอาของส่วนตัวมาแชร์กัน เช่น บ้าน Airbnb รถ Zipcar หรือ peerbuy อันนี้มีทุกอย่าง จริงๆ ส่วนตัวคิดว่าคล้ายmarketplace นะ เพียงแต่ว่าเป็นการให้ยืม คนมีของ มาเจอกับคนที่อยากจะใช้ชั่วคราว ก็ยืมๆกันไป
6. Hypermarket model แนวนี้จะใช้เงินหรือทรัพยากรทุกอย่างที่มีในการจัดการคู่แข่งให้หมด บางทีขายของอย่างเดียวกันยอมขายต่ำกว่าทุนเลย เพียงเพื่อให้ผู้ซื้อเลือกที่จะซื้อจากเขา
7. Experience model เป็นการให้ความรู้สึกประกับใจกับผู้ใช้อย่างที่ไม่มีใครสามารถจะให้ได้ จริงๆอยากจะเขียนว่า Superior buying experience เป็นอะไรที่คนยอมจ่ายเช่น สินค้าของ Apple หรือ รถ Tesla ที่วิ่งด้วยไฟฟ้า
8. Pyramid model การเกณฑ์คนมากมายให้มาทำงานให้เขา แบรนด์ที่พอจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพน่าจะเป็น Amazon มีโปรแกรม affiliate จะเห็นว่ามีบล็อคคนเอาของมารีวิวเยอะแยะมากมาย ปิดท้ายที่ว่าซื้อมาจากที่นี่นะ ลองกดเข้าไปดูสิ คล้ายๆกับ การที่เราไปซื้ออะไรแล้วบอกว่าเพื่อนเราแนะนำมานั่นแหละ เนื่องจากมันง่ายอย่างงี้เลยใครๆก็เลยมาทำ affiliate กัน
9. On-demand model การให้ผู้ใช้เข้าถึงบริการแบบต่างๆตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น uber, wagwalking พาหมาเดินเล่น, taskrabbit บริการช่าง โดยกินส่วนต่างจากค่าบริการ จับคู่คนที่อยากได้เงินให้มาบริการ คนที่มีเงิน
10. Ecosystem model เช่น apple กับ google อันนี้เป็นขั้นสูงสุด ขอยกตัวอย่างเลยดีกว่า เช่นผลิตภัณฑ์ของ apple การที่คุณใช้ macbook อย่างเดียวมันก็เป็นคอมที่ดีระดับนึง แต่ถ้าคุณใช้คู่กับ iphone รายชื่อนัดหมาย สมุดโทรศัพท์ของคุณจะเข้าถึงกันได้แบบเนียนมากๆ ละถ้าคุณมี ipad อีก apple watch, apple TV อีกมันก็จะทำให้ของแต่ละชิ้นมันทำงานได้มากขึ้นอีก หรือนี่เลย ถ้าคุณทำ Galaxy S7 สุดหรูของคุณตก แล้วจอแตก แต่คุณมี samsung wearable อยู่แล้ว มี android stick ที่บ้าน มี android tablet ในกระเป๋า คงเป็นไปได้ยากที่คุณจะเดินไป istudio ซื้อ ไอโฟนมาลองใช้ นี่แหละครับที่เรียกว่า ecosystem model เข้ามาแล้วก็จะออกได้ยาก
เป็นยังไงบ้าง เดี๋ยวคราวหน้าแอดมินจะมาต่อเรื่องวิธีการรับมือกับมัน ถ้าให้ความเห็นผิดพลาดประการใดก็แนะนำกันมาได้เลยนะครับ หรืออยากติดตามต่อไปก็อย่าลืมไปกด like fanpage commerzy ที่ facebook.com/commerzy นะครับ
นี่หนังสือที่กล่าวถึงแนะนำซื้ออ่านได้ หรือจะอ่านย่อๆจากใน blog ของเขาก็ได้ครับ ทำลิ้งไว้ให้แล้ว
A presentation that guides you through ten business models of hyper disruptors such as Google, Uber & AirBnB
Source: 10 Hyper Disruptive Business Models | Digital Transformation
Leave a Comment